กุญแจที่ 6
ทางที่สั้นที่สุด ทางที่เหมาะกับเราที่สุด
ทางที่สั้นที่สุด ทางที่เหมาะกับเราที่สุด
“หากรู้ว่าทางลัดคืออะไร ทำไมยังเลือกที่จะเดินอ้อม”
เคยได้ยินทฤษฎีทางเดินของมดหรือไม่ครับ?
มดตัวเล็กๆมันสอนอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่แบบประเมินค่ามิได้ มนุษย์สังเกตแล้วนำมาพัฒนาระบบต่างๆเพื่อช่วยทำให้คุณภาพชีวิตมนุษย์ดีขึ้น…ต้องขอบคุณมดเป็นอย่างสูงครับ
ทางเดินของมดระหว่างแหล่งอาหารกับรัง มดลองผิดลองถูกในช่วงการหาแหล่งอาหารและสุดท้ายมดก็ค้นพบทางที่สั้นที่สุด เสียเวลาน้อยที่สุด เพื่อจะไปยังแหล่งอาหารได้ หากเปรียบเส้นทางการเดินทางของชีวิตมนุษย์ระหว่างจุดตั้งต้นกับเป้าหมาย (ถ้าเป็นมดคือแหล่งอาหารกับรัง) ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านเลือกที่จะใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด ใช้แรงน้อยที่สุดในการบบรรลุเป้าหมายแต่ทำไมส่วนใหญ่ไม่เป็นแบบนั้น
97 เปอร์เซ็นต์ของคนทำขายตรงไม่ประสบความสำเร็จจากระบบ เพราะอะไร?
ส่วนหนึ่งผมสันนิษฐานว่าการเลือกทางเดินและการตัดสินใจมีหลายทาง แต่มักเลือกทางที่อ้อมมากกว่า อ้อมเพราะตนเองไม่เคยเรียนรู้ว่ามีทางที่สั้นที่สุด หรืออาจจะมีทางรู้ได้แต่ไม่อยากรู้เอง เพราะคิดว่าตัวเองรู้มาหมดแล้ว คนแบบนี้เข้าลักษณะแก้วที่คว่ำไม่สามารถรับอะไรได้อีก
และหากท่านคิดว่าตัวท่านรู้ในแนวทางที่เรากำลังจะเรียนรู้กันต่อไปนี้แล้ว ก็จงหยุดอ่านแล้วกลับไปดำเนินชีวิตอย่างที่ท่านเลือกเถอะครับ….แต่หากว่าท่านเปิดใจและอยากเรียนรู้ต่อไปแบบไม่จบสิ้น…เชิญอ่านต่อครับ
หัวใจสำคัญของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเดินทางของมด มาใช้ในแนวทางการทำขายตรงคือ การเลือกทางและการตัดสินใจ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่านในช่วงเวลานี้ นั้นคือ ท่านได้เรียนรู้มากพอที่จะทราบได้อย่างกระจ่างแจ้งว่าทางที่มีคนเดินมีมากมาย หลายทางแต่มีทางหนึ่งที่คนใช้บ่อยที่สุดและประสบความสำเร็จได้จริงๆ และที่สำคัญคือทางนั้นต้องเหมาะกับความเป็นเราด้วย
บทเรียนสำเร็จรูปหรือแผนที่แห่งความสำเร็จ ปรากฏเป็นรอยทางในรูปแบบหนังสือ ซีดี อัตชีวประวัติ สุนทรพจน์ ฯลฯ มีอยู่มากมายรอบตัว อยู่ที่เราจะเปิดใจให้กว้างเพื่อเรียนรู้รอยทางเหล่านั้นและใช้สติปัญญาในการพิจารณาว่าทางใดน่าจะเป็นทางแห่งความสำเร็จที่สั้นที่สุดและเหมาะกับเราที่สุด แล้วจึงตัดสินใจเพื่อที่จะเดินทางนั้นอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ ด้วยความเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จได้จริงๆ
เคยได้ยินทฤษฎีทางเดินของมดหรือไม่ครับ?
มดตัวเล็กๆมันสอนอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่แบบประเมินค่ามิได้ มนุษย์สังเกตแล้วนำมาพัฒนาระบบต่างๆเพื่อช่วยทำให้คุณภาพชีวิตมนุษย์ดีขึ้น…ต้องขอบคุณมดเป็นอย่างสูงครับ
ทางเดินของมดระหว่างแหล่งอาหารกับรัง มดลองผิดลองถูกในช่วงการหาแหล่งอาหารและสุดท้ายมดก็ค้นพบทางที่สั้นที่สุด เสียเวลาน้อยที่สุด เพื่อจะไปยังแหล่งอาหารได้ หากเปรียบเส้นทางการเดินทางของชีวิตมนุษย์ระหว่างจุดตั้งต้นกับเป้าหมาย (ถ้าเป็นมดคือแหล่งอาหารกับรัง) ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านเลือกที่จะใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด ใช้แรงน้อยที่สุดในการบบรรลุเป้าหมายแต่ทำไมส่วนใหญ่ไม่เป็นแบบนั้น
97 เปอร์เซ็นต์ของคนทำขายตรงไม่ประสบความสำเร็จจากระบบ เพราะอะไร?
ส่วนหนึ่งผมสันนิษฐานว่าการเลือกทางเดินและการตัดสินใจมีหลายทาง แต่มักเลือกทางที่อ้อมมากกว่า อ้อมเพราะตนเองไม่เคยเรียนรู้ว่ามีทางที่สั้นที่สุด หรืออาจจะมีทางรู้ได้แต่ไม่อยากรู้เอง เพราะคิดว่าตัวเองรู้มาหมดแล้ว คนแบบนี้เข้าลักษณะแก้วที่คว่ำไม่สามารถรับอะไรได้อีก
และหากท่านคิดว่าตัวท่านรู้ในแนวทางที่เรากำลังจะเรียนรู้กันต่อไปนี้แล้ว ก็จงหยุดอ่านแล้วกลับไปดำเนินชีวิตอย่างที่ท่านเลือกเถอะครับ….แต่หากว่าท่านเปิดใจและอยากเรียนรู้ต่อไปแบบไม่จบสิ้น…เชิญอ่านต่อครับ
หัวใจสำคัญของการประยุกต์ใช้ทฤษฎีการเดินทางของมด มาใช้ในแนวทางการทำขายตรงคือ การเลือกทางและการตัดสินใจ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับท่านในช่วงเวลานี้ นั้นคือ ท่านได้เรียนรู้มากพอที่จะทราบได้อย่างกระจ่างแจ้งว่าทางที่มีคนเดินมีมากมาย หลายทางแต่มีทางหนึ่งที่คนใช้บ่อยที่สุดและประสบความสำเร็จได้จริงๆ และที่สำคัญคือทางนั้นต้องเหมาะกับความเป็นเราด้วย
บทเรียนสำเร็จรูปหรือแผนที่แห่งความสำเร็จ ปรากฏเป็นรอยทางในรูปแบบหนังสือ ซีดี อัตชีวประวัติ สุนทรพจน์ ฯลฯ มีอยู่มากมายรอบตัว อยู่ที่เราจะเปิดใจให้กว้างเพื่อเรียนรู้รอยทางเหล่านั้นและใช้สติปัญญาในการพิจารณาว่าทางใดน่าจะเป็นทางแห่งความสำเร็จที่สั้นที่สุดและเหมาะกับเราที่สุด แล้วจึงตัดสินใจเพื่อที่จะเดินทางนั้นอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ ด้วยความเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จได้จริงๆ
ทรัพยากรที่เรามีควรจะนำมาใช้ในทางที่ใช่ที่สุด และอย่าเสียเวลากับทางที่ไม่ใช่นานนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น